วันพฤหัสบดีที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ทำในสิ่งที่ไม่ต้องทำ

       จุดหนึ่งเมื่อรู้สึกว่าชีวิตช่างสับสนวุ่นวาย  วกวนไม่รู้จบสิ้น  จึงคิดหาเหตุผลร้อยแปดด้านเพื่อหาต้นตอของปัญหา  แล้วจะได้แก้ไขได้ถูกต้อง  ยิ่งปรากฏชัดแ้จ้งออกมาว่า  เราคิดมากเกินไป  เพราะยิ่งคิดยิ่งสับสนและปวดศรีษะเข้าไปหนัก

       ผมเคยได้ยินมาว่า  ถ้าเราคิดมากเกินไปอาจจะทำให้เป็นบ้าได้  ก็เลยกลัวตัวเองจะเป็นบ้า แถมโรคประสาทมาอีก  วิธีที่จะทำให้ไม่คิดมากคือต้องหาอะไรทำ  ไม่ว่าจะเป็นงานอดิเรก   ออกกำลังกาย  ทำงาน

       ลองมองดูว่าตัวเองจะทำอะไรได้บ้างตามที่กล่าวมา  ตั้งแต่งานอดิเรก  ก็ไม่มี ไม่รู้จะทำอะไร  ทำสวน ปลูกต้นไม้ ก็รู้สึกเกะกะเพราะบ้านยังสร้างไม่เสร็จเรียบร้อยดี  จะออกกำลังกายด้วยการไปเตะฟุตบอลของชอบ ก็คนเยอะ ไม่สนุกเมื่อเมื่อก่อน  ถ้าจะให้ทำงานก็ขอนอนเลยดีกว่า

       คิดไม่ออกอีกแล้ว  ทำไงดีหว่า   มองไปเห็นถ้วยจานชามที่ใช้แล้ว  คราบอาหารยังเหลือติดจาน  ถึงจะยังไม่เน่า  แต่ก็มีแมลงวันตัวหนึ่งบินตอม หึ่ง ๆ  ท่าทางมันจะโชคดี  ที่บ้านนี้กินข้าวแล้วแช่จาน
มองกองจานที่ยังไม่ได้ล้างแล้วรู้สึกขวางหูขวางตา   เอาวะ  ล้างจานนี่แระ  แก้เซ็ง  ผมเลยยกจานไปล้างที่หลังบ้าน  ครั้นจะหยิบจับอะไรขึ้นมาล้าง  อ้าว..  ก็อกสายยางก็ยังไม่เสร็จ  อ้าว  ที่ล้างไปไหน  กะละมังละ  ว๊าก...  ปัญหาเยอะจังเลย  แต่ไม่เป็นไร ไหนๆ ก็ตั้งใจจะล้างแล้ว  แค่นี้ไม่ทำให้หยุดความตั้งใจของเราได้หรอก   ก็เลยล้างไปตามมีตามเกิดละครับ

      นั่งล้างไปนานพอสมควรครับ  ผมต้องใช้สายยางฉีด  อีกมือหนึ่งก็ถือจานไว้  นั่งก็ไม่ได้  ปวดหลังมาก  ล้างจานล็อตแรก  ใช้เวลาเกือบชั่วโมง  โอ้ว..วว  ทำไปได้

       หลังจากล้างเสร็จแล้วก็ยกจานมาเก็บในบ้าน  ด้วยความภาคภูมิใจที่สามารถทำงานสำเร็จได้เป็นชิ้นเป็นอัน 1 ชิ้น

ถ้ารู้สึกชีวิตรกรุงรัง  ก็ลองทำความสะอาดอะไรก็ได้  ง่ายๆ เริ่มจากของรอบตัวก่อน   และที่สำคัญอย่าลืมทำความสะอาดข้างในจิตใจด้วย

อ้าว   แล้วสิ่งที่ไม่ต้องทำดันลืมเล่าไปเลย   ......  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น